สาเหตุผมร่วงพันธุกรรม รู้ทันก่อนหัวล้าน

ผมร่วงจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia)     

ภาวะผมร่วงจากพันธุกรรม เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆของปัญหาผมร่วงแม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ส่งผลต่อความสวยความหล่อ บุคลิกภาพ และความมั่นใจภาวะนี้พบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นมากขึ้นตามอายุแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมักจะมีประวัติคนในครอบครัว เช่น คุณพ่อ/คุณแม่ผมบางด้วย 


สาเหตุ 

เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ที่ชื่อว่า Dihydrotestosterone (DHT) และปัจจัยทางด้านกรรมพันธุ์ ทำให้รากผมและเส้นผมมีขนาดเล็กและบางลงเรื่อย (Hair miniaturization) ร่วมกับมีการเปลี่ยนแปลงวงจรของเส้นผม (Hair cycle) ทำให้ระยะเติบโตของเส้นผมมีช่วงเวลาที่สั้นลง (Anagen phase สั้นลง) ผมจึงเติบโตได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้ง่ายมากขึ้น เมื่อเป็นแบบนี้ต่อเนื่องนานๆ จึงทำให้ดูผมบางหรือศีรษะล้านได้ 

ภาพถ่ายจากกล้องกำลังขยายสูง (Dermoscope) แสดงเส้นผมที่บางเล็กลง (Hair miniaturization) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของภาวะผมบางจากพันธุกรรม 

ลักษณะของภาวะผมบางจากพันธุกรรม

จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในผู้หญิงและผู้ชาย 

  • เพศชาย (Male pattern hairloss) มักเริ่มจากผมบางจากไรผมด้านหน้า ทำให้แนวไรผมร่นสูงขึ้นไปทาด้านบนและขมับ ทำให้ดูคล้ายตัว M (M pattern) และผมบางตรงกลางศีรษะ คล้ายวงไข่ดาว ถ้าเป็นมากอาจจะบางจากด้านหน้าและตรงกลางมาเชื่อมกันจนศีรษะล้านเป็นรูปตัว U คือยังคงเหลือเฉพาะเส้นผมตรงท้ายทอยที่ยังจะไม่ร่วงเพราะไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT

ที่มาของภาพ Fitzpatrick’s Dermatology, 9th edition

  • เพศหญิง (Female pattern hair loss) 

เส้นผมมักร่วงและบางบริเวณกลางศีรษะ (แสกผม) โดยส่วนมากในผู้หญิงจะไม่บางจนกลายเป็นศีรษะแบบผู้ชาย 

ที่มาของภาพ Bolognia Dermatology, 4th edition 

การรักษาภาวะผมบางจากพันธุกรรม 

การรักษาหลัก มี 2 วิธี 

  1. ยารับประทาน เช่น Finesteride, Dutasteride, Minoxidil แต่ไม่ควรซื้อรับประทานเอง เพราะอาจเกิดอันตรายและผลข้างเคียงได้ 
  2. ยาทา เช่น Topical minoxidil, Topical finesterideเป็นต้น

ก่อนเริ่มใช้ยา ควรพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจก่อน ว่าใช่ภาวะผมบางจากพันธุกรรมจริงๆ

เพราะถ้าหากผมร่วงจากสาเหตุอื่นๆ วิธีการรักษาก็จะแตกต่างจากนี้

การรักษาทางเลือก (Alternative treatment)

มีหลายวิธี เช่น 

  1. การใช้แสงเลเซอร์ความเข้มต่ำ (Low level laser therapy/LLLT) เป็นอุปกรณ์ที่นำไปใช้เองที่บ้านได้ มีหลายรูปแบบ เช่น หมวกเลเซอร์ ที่คาดผมเลเซอร์ หวีเลเซอร์ 
  2. การฉีดพลาสม่าของตัวเอง (Platelet rich plasma/PRP) 
  3. การสัก (Scalp micropigmentation) 
  4. ผ่าตัดปลูกผม (Hair transplantation) 

อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษาแบบทางเลือก ควรใช้คู่กับการรักษาด้วยวิธีหลักเสมอ 

ทำอย่างไรหากเริ่มสังเกตว่าผมน้อยผมบางแล้วแต่ไม่อยากหัวล้าน ?

วิธีเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง

  1. ถ้าเริ่มสังเกตว่าผมร่วงเยอะกว่าปกติ ให้ลองนับจำนวนที่เส้นผมที่ร่วงในแต่ละวัน หากมากกว่า 100-200 เส้นต่อวัน เป็นเวลาต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์

ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของผมร่วงก่อน 

  1. งดการทำเคมี ดัด ย้อม ยืด ทำสี งดความร้อน เช่น หนีบ/ม้วน/รีดผม เพื่อช่วยให้ผมไม่อ่อนแอเปราะบางเพิ่ม
  2. เลือกหวีหรือแปรงผมที่ซี่ห่างๆ ค่อยๆหวีเบาๆ ไม่กระชาก 
  3. ไม่สระผมบ่อยเกินไป โดยปกติแนะนำสระผมวันละ 1 ครั้ง หรือสระวันเว้นวัน แล้วแต่ความมันของโคนผม 
  4. เลือกใช้แชมพูที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงความแข็งแรงของเส้นผมและช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม 
  5. ไม่หวีผมในขณะที่เส้นผมเปียกอยู่ ควรเป่าผมให้แห้งก่อนแล้วค่อยหวีผม 
  6. ไม่ดึงหรือถอนผมตัวเอง 
  7. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ 
  8. ไม่มัดผมรวบตึงแน่นๆอยู่ตลอดเวลา เพราะทำให้เกิดผมร่วงจากแรงดึง เรียกว่า Traction alopecia ได้ 
  9. หากิจกรรมผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ 

แต่ถ้าหากทำแล้ว ประมาณ 2-4 สัปดาห์ยังพบว่าผมยังร่วงเยอะไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป 

ข้อมูลบทความอ้างอิงจาก 

  1. Bolognia Dermatology, 4th edition 
  2. Fitzpatrick’s Dermatology, 9th edition
  3. Miteva M, Tosti A. Hair and scalp dermatoscopy. J Am Acad Dermatol. 2012 Nov;67(5)

← Previous Next →

Tags:

สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย ผม ความงาม
1 Comment(s)
rang
ชอบค่ะ
Reply Apr 02, 2021 07:10